ระวังอันตรายหน้าตู้ ATM กดเงินด่วน อย่ากดภัยด่วน
เอทีเอ็ม เงินด่วนภัยด่วน
“นักศึกษาสาว ม.รังสิต ถูกจี้ชิงทรัพย์แต่เช้า คนร้ายสะกดรอยตั้งแต่กดเงิน จนแวะห้องน้ำในปั๊มบนถนนลาดพร้าว สบโอกาสปลอดคน ใช้คัตเตอร์แทงที่ท้องและแขนทั้งที่เหยื่อกำลังก้มหยิบเงินให้”
“นักศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่าง กดเงินที่ตู้เอทีเอ็มเวลาสี่โมงเย็นที่มหาวิทยาลัย แล้วนำเงินสดที่กดมาจำนวน 25,000 บาท ซุกไว้ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ จากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ขณะที่กำลังคุยโทรศัพท์มือถือกับเพื่อนชาย ปรากฏว่ารถตู้คันหนึ่งแล่นผ่านมา คนร้ายคนหนึ่งในรถตู้เป็นชาย ยื่นมือมาผลักใบหน้า จนรถเสียหลักล้มลง จากนั้นก็ตามลงมาทำร้าย แล้วช่วยกันอุ้มตัวขึ้นรถตู้”
“สุวนิต เจ้าของธุรกิจสาวนำเข้าส่งออก เบิกเงินสดจำนวน 1 แสนบาทจากตู้เอทีเอ็มธนาคารย่านบางพลี เพื่อจะนำไปให้ลูกค้าที่ฉะเชิงเทรา หลังจากเบิกเงินเสร็จเรียบร้อย เธอได้เอาเงินใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาลของธนาคาร แล้วเก็บไว้ใต้เบาะที่นั่งคนขับ ระหว่างทางได้แวะจอดรถเพื่อซื้อของในปั๊มน้ำมัน ปรากฏว่าเมื่อเดินกลับมา กระจกรถยนต์ถูกทุบและเงินที่วางใต้เบาะคนขับจำนวน 1 แสนบาทหายไปแล้ว
เบื้องต้นตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะขับรถติดตามมาจากธนาคาร เมื่อสบโอกาสจึงลงมือก่อเหตุ”
เป็นเรื่องจริงที่ทศวรรษนี้ ตู้เอทีเอ็มกลายเป็น “ตู้ปล้นเงิน” ไปเสียแล้ว ความสะดวกในการเบิกถอนและทำธุรกรรมเงินสดนอกธนาคาร กำลังกลายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้มิจฉาชีพปล้นเราง่ายขึ้น
ขณะที่เรากำลังง่วนอยู่กับการเอาเงินจากตู้ มิจฉาชีพก็รอจ้องที่จะเอาเงินของเราไปอีกต่อ
พฤติกรรมมิจฉาชีพมีตั้งแต่การพยายามลักรหัส โดยการติดกล้องไว้จุดใดจุดหนึ่งที่จะทำให้มองเห็นมือเราที่กดรหัสบัตรถอนเงิน จนพัฒนา(ในทางชั่ว)มาถึงขั้นโจรกรรมข้อมูลในบัตรโดยใช้เทคโนโลยี แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือ การสะกดรอยตามเหยื่อ แล้วลงมือลักวิ่งชิงปล้นเอาอย่างดื้อๆ
กดเงินด่วนอย่างไรไม่เสียทีโจร
ผู้หญิงที่ต้อง “เปิดตู้เอาเงิน” จากเอทีเอ็ม พึงรำลึกไว้เสมอว่า คุณกำลังเปิดบ้านให้โจรปล้น ควรสังเกตรอบข้างสักนิดว่ามี “บุคคลมีพิรุธ” จ้องดูคุณอยู่หรือไม่
- กดเอทีเอ็มทุกครั้ง เลี่ยงตู้เอทีเอ็มในที่เปลี่ยว เลือกที่ที่คนอยู่กันพลุกพล่าน สว่าง โล่ง ปลอดภัย
เช่น เลือกตู้ที่อยู่ในห้างแทนที่จะเลือกนอกห้าง
- เตรียมบัตรถือไว้ก่อนถึงตู้ พยายามจดจำรหัสเอทีเอ็มให้แม่นมั่น อย่าล้วงควักกระเป๋า เปิดดูมือถือ หรือเปิดดูกระดาษโน้ต ระหว่างรอคิว สังเกตผู้คนรอบตัวถ้ารู้สึกระแวงหรือไม่สบายใจ ให้เดินออกจากตู้ก่อน
- เมื่อถึงคิวทำธุรกรรม ใช้เวลาให้น้อยที่สุดหน้าตู้ อย่ายืดเยื้อให้โจรมีโอกาส ระหว่างที่กด ถ้ามีเหตุการณ์ใดที่ทำให้รู้สึกระแวง เช่น คนข้างหน้ากดเงินไม่ออก หรือคนข้างหลังเข้ามาใกล้เกินไป จงยกเลิกทันทีก่อนถึงขั้นตอนที่เงินจะไหลออกมา
- หากทำธุรกรรมไม่สำเร็จ อย่าทำท่ากังวลลนลาน ให้ยกเลิก ดึงบัตร แล้วเดินออกมาเลย อย่ารับความช่วยเหลือใดๆ จากบุคคลแปลกหน้าที่ต่อคิวอยู่ กลุ่มคนร้ายที่ทำงานเป็นกลุ่ม อาจวางแผนสร้างสถานการณ์และเข้ามารุมกันช่วยคุณ
- อย่ารับโทรศัพท์มือถือขณะกำลังกดเอทีเอ็ม ถ้ามันดังปล่อยให้มันดัง อย่าให้อะไรมาแย่งความสนใจจากคุณและการทำธุรกรรม
- อย่ากดเอทีเอ็มล่วงหน้า ถ้าต้องนำเงินสดไปให้ลูกค้าจำนวนมาก ให้กดเอทีเอ็มที่เครื่องที่ปลอดภัยและใกล้จุดหมายที่สุด แล้วนำเงินขึ้นรถไปที่จุดหมายอย่าแวะกลางทาง
ความจริงสิบอย่างเกี่ยวกับโจรเอทีเอ็ม
โจรเอทีเอ็มมักลงมือคนเดียว
โจรเอทีเอ็มส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 30
โจรเอทีเอ็มส่วนใหญ่ติดเหล้าหรือยาเสพติด
โจรเอทีเอ็มส่วนใหญ่พกอาวุธและขู่ว่าจะทำร้าย
โจรเอทีเอ็มส่วนใหญ่จะจี้เอากระเป๋าสะพายและของมีค่าไปด้วย
50% ของเหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อกดเงินเสร็จ
คนร้ายมักซุ่มตัวอยู่ในละแวกใกล้เคียงไม่เกิน 50 เมตร รอจนเหยื่อเข้ามากดเงิน
เหยื่อเกือบทั้งหมดอยู่ตรงนั้นคนเดียว
เหยื่อเกือบทั้งหมดไม่รู้ตัวว่าคนร้ายอยู่แถวนั้นจนเมื่อเกิดเหตุ
เหยื่อเกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง!!!!
รหัสเอทีเอ็มนั้นสำคัญไฉน
คุณอาจเคยคิดว่า ใครได้บัตรเอทีเอ็มคุณไปก็เปล่าประโยชน์ถ้าไม่มีรหัส มีกรณีมากมายที่บัตรเอทีเอ็มหาย และคนร้ายสามารถ “แกะรหัส” คุณได้ ด้วยวิธีที่คุณนึกไม่ถึง
คำเตือนที่ติดข้างตู้ให้คุณเอามือบังรหัสเอทีเอ็มนั้น ไม่ใช่คำเตือนลอยๆ มีผู้คนมากมายที่คิดว่า “ไม่เห็นจำเป็น” ถ้าไม่มีคนต่อคิวอยู่ข้างหลัง
ความจริงคือ อาชญากรสามารถซ่อนกล้องแอบดูการกดรหัสของคุณที่ไหนก็ได้ อาจแอบถ่ายจากด้านบนหรือซูมกล้องจากที่ไกล ดังนั้น คุณต้องยกมือบังรหัสตลอดเวลา
แม้จะไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลยก็ตามที่อันตรายไม่น้อยกว่ากัน คือการที่คุณตั้งรหัสเอทีเอ็มด้วยเลขที่บ้าน เบอร์ห้องพัก หมายเลขโทรศัพท์ หรืออะไรก็ตามที่คนร้ายสามารถแกะรอยจากข้อมูลส่วนตัวของคุณได้
ลองคิดภาพคุณตั้งรหัสเอทีเอ็มด้วยเลขที่วันเกิดกับปีที่เกิด คุณคิดว่าบัตรเอทีเอ็มหายคนร้ายคงไม่รู้รหัสส่วนตัวของคุณ แต่คุณลืมไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าคนร้ายได้กระเป๋าไปทั้งใบ แน่นอนมันอาจเดารหัสนี้ได้
จากข้อมูลในบัตรประชาชนของคุณ
อย่าเด็ดขาด ตั้งรหัสเอทีเอ็มด้วยข้อมูลส่วนตัว เลขที่บ้าน วันเดือนปีเกิด รหัสไปรษณีย์ หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือหรือว่าเบอร์โทรศัพท์ที่บ้าน
หมายเลขทะเบียนรถยนต์ก็ไม่ควรอย่างยิ่ง ผู้หญิงขี้ลืมบางคนตั้งรหัสบัตรเอทีเอ็มทุกใบ และบัตรเครดิตทุกใบด้วยรหัสเดียวกัน อันตรายไม่แพ้กัน เพราะถ้ามัน “แกะรอย” รหัสเดียวได้ มันก็ได้ชีวิตคุณไปทั้งชีวิต
สลิปเอทีเอ็มนั้นสำคัญฉะนี้
ทุกครั้งที่กดเงินเอทีเอ็ม คุณทิ้งสลิปที่หน้าตู้ทันทีหรือไม่
ถ้าใช่ เปลี่ยนนิสัยด่วน!
คุณรู้หรือไม่ว่าบนสลิปบัญชีมีเลขบัญชีสิบหลัก และเลขสิบหลักนี้มีค่าเทียบเท่ากับบัตรเอที เอ็ม ถ้าทำธุรกรรมโอนเงินผ่านระบบธนาคารทางโทรศัพท์
เพียงมีตัวเลขบัญชีและรหัสที่ใช้กับบัญชีนั้น มิจฉาชีพก็สามารถใช้บริการธนาคารทางโทรศัพท์ โทรเข้าไปทำการโอนเงินได้ เอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวกับเงินของคุณ
ทุกอย่างที่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ เลขบัญชีธนาคารของคุณ วันเดือนปีเกิดของคุณ สลิปบัตรเครดิตของคุณ ทำลายให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หาที่กำจัดอย่างปลอดภัย อย่าทิ้งเอาไว้ให้ใคร “สะกดรอย” ตามคุณได้
ช้อปฉลาด
นอกจากตู้เอทีเอ็ม ที่ไหนอีกล่ะที่ผู้คนพกเงินเป็นฟ่อน ใช่แล้ว-ห้างสรรพสินค้าไง
ห้างร้านที่คุณช้อป คือสถานที่ที่ผู้คนนำเงินสดติดตัวมาเพื่อจับจ่าย
ยิ่งนักช้อปมัวแต่พุ่งความสนใจไปยังสินค้าที่วางล่อตาอยู่ ความเผลอไผลก็สร้างโอกาสให้นักฉกฉวยที่คิดการชั่วมาแล้วจากบ้าน อาชญากรรมมากมายเกิดขึ้นในห้าง แต่อย่าให้มันเกิดขึ้นกับคุณ
9 วิธีลดโอกาสตกเป็นเหยื่อโจรห้าง
ไม่ช้อปปิ้งในยามวิกาล พยายามไปช้อปตอนกลางวันที่สว่างและพลุกพล่าน ถ้ามีความจำเป็นต้องไปตอนค่ำ ให้หาที่จอดรถใกล้ประตูมากที่สุดหรือใกล้ รปภ.มากที่สุด พกเงินน้อยที่สุด ถ้าพกมาก อย่าเปิดกระเป๋าที่มีธนบัตรเป็นฟ่อนให้ใครเห็น
ทำตัวเป็นคนใจร้าย อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร แม้แต่นักศึกษาหน้าตาไม่มีพิษภัยที่มาทำแบบสำรวจ
ทำตัวเป็นคนช่างสังเกตจนเป็นนิสัย รู้ตัวเสมอว่าใครอยู่ข้างหน้า ข้างหลัง ข้างซ้าย ข้างขวา
นิสัยนี้ฝึกเป็นนิสัยประจำตัวทุกครั้งที่อยู่ในที่สาธารณะ
อย่าเข็นรถไปมุมอับ มุมเปลี่ยว ถ้าเป็นเวลาวิกาล หลีกเลี่ยงอย่าเข้าห้องน้ำคนเดียว
ถ้ารู้สึกว่ามีใครเดินตาม พยายามชน หรือเดินตรงมายังคุณโดยไม่มีเหตุผล พยายามหาทางเลี้ยวหลบ แล้วเข็นรถไปทางแคชเชียร์
เมื่ออกจากแคชเชียร์ เก็บเงินทอนใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย แล้วนำกระเป๋าเงินใส่กระเป๋าสะพาย รูดซิปปิด
ยอมเสียเวลาเล็กน้อยทำให้เสร็จเรียบร้อย ตั้งสติให้ดีก่อนเข็นรถออกมาจากห้าง
ถ้ามีรถ หยิบกุญแจรถเตรียมไว้ก่อนที่จะเข็นรถเข็นไปที่รถ
ถ้ามีอะไรผิดสังเกตในลานจอดรถ หรือถ้ามันมืดจนไม่สบายใจ อย่าอายที่จะเรียก รปภ.ให้เดินไปส่ง
...................................................
“นักศึกษาสาว ม.รังสิต ถูกจี้ชิงทรัพย์แต่เช้า คนร้ายสะกดรอยตั้งแต่กดเงิน จนแวะห้องน้ำในปั๊มบนถนนลาดพร้าว สบโอกาสปลอดคน ใช้คัตเตอร์แทงที่ท้องและแขนทั้งที่เหยื่อกำลังก้มหยิบเงินให้”
“นักศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่าง กดเงินที่ตู้เอทีเอ็มเวลาสี่โมงเย็นที่มหาวิทยาลัย แล้วนำเงินสดที่กดมาจำนวน 25,000 บาท ซุกไว้ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ จากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ขณะที่กำลังคุยโทรศัพท์มือถือกับเพื่อนชาย ปรากฏว่ารถตู้คันหนึ่งแล่นผ่านมา คนร้ายคนหนึ่งในรถตู้เป็นชาย ยื่นมือมาผลักใบหน้า จนรถเสียหลักล้มลง จากนั้นก็ตามลงมาทำร้าย แล้วช่วยกันอุ้มตัวขึ้นรถตู้”
“สุวนิต เจ้าของธุรกิจสาวนำเข้าส่งออก เบิกเงินสดจำนวน 1 แสนบาทจากตู้เอทีเอ็มธนาคารย่านบางพลี เพื่อจะนำไปให้ลูกค้าที่ฉะเชิงเทรา หลังจากเบิกเงินเสร็จเรียบร้อย เธอได้เอาเงินใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาลของธนาคาร แล้วเก็บไว้ใต้เบาะที่นั่งคนขับ ระหว่างทางได้แวะจอดรถเพื่อซื้อของในปั๊มน้ำมัน ปรากฏว่าเมื่อเดินกลับมา กระจกรถยนต์ถูกทุบและเงินที่วางใต้เบาะคนขับจำนวน 1 แสนบาทหายไปแล้ว
เบื้องต้นตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะขับรถติดตามมาจากธนาคาร เมื่อสบโอกาสจึงลงมือก่อเหตุ”
เป็นเรื่องจริงที่ทศวรรษนี้ ตู้เอทีเอ็มกลายเป็น “ตู้ปล้นเงิน” ไปเสียแล้ว ความสะดวกในการเบิกถอนและทำธุรกรรมเงินสดนอกธนาคาร กำลังกลายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้มิจฉาชีพปล้นเราง่ายขึ้น
ขณะที่เรากำลังง่วนอยู่กับการเอาเงินจากตู้ มิจฉาชีพก็รอจ้องที่จะเอาเงินของเราไปอีกต่อ
พฤติกรรมมิจฉาชีพมีตั้งแต่การพยายามลักรหัส โดยการติดกล้องไว้จุดใดจุดหนึ่งที่จะทำให้มองเห็นมือเราที่กดรหัสบัตรถอนเงิน จนพัฒนา(ในทางชั่ว)มาถึงขั้นโจรกรรมข้อมูลในบัตรโดยใช้เทคโนโลยี แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือ การสะกดรอยตามเหยื่อ แล้วลงมือลักวิ่งชิงปล้นเอาอย่างดื้อๆ
กดเงินด่วนอย่างไรไม่เสียทีโจร
ผู้หญิงที่ต้อง “เปิดตู้เอาเงิน” จากเอทีเอ็ม พึงรำลึกไว้เสมอว่า คุณกำลังเปิดบ้านให้โจรปล้น ควรสังเกตรอบข้างสักนิดว่ามี “บุคคลมีพิรุธ” จ้องดูคุณอยู่หรือไม่
- กดเอทีเอ็มทุกครั้ง เลี่ยงตู้เอทีเอ็มในที่เปลี่ยว เลือกที่ที่คนอยู่กันพลุกพล่าน สว่าง โล่ง ปลอดภัย
เช่น เลือกตู้ที่อยู่ในห้างแทนที่จะเลือกนอกห้าง
- เตรียมบัตรถือไว้ก่อนถึงตู้ พยายามจดจำรหัสเอทีเอ็มให้แม่นมั่น อย่าล้วงควักกระเป๋า เปิดดูมือถือ หรือเปิดดูกระดาษโน้ต ระหว่างรอคิว สังเกตผู้คนรอบตัวถ้ารู้สึกระแวงหรือไม่สบายใจ ให้เดินออกจากตู้ก่อน
- เมื่อถึงคิวทำธุรกรรม ใช้เวลาให้น้อยที่สุดหน้าตู้ อย่ายืดเยื้อให้โจรมีโอกาส ระหว่างที่กด ถ้ามีเหตุการณ์ใดที่ทำให้รู้สึกระแวง เช่น คนข้างหน้ากดเงินไม่ออก หรือคนข้างหลังเข้ามาใกล้เกินไป จงยกเลิกทันทีก่อนถึงขั้นตอนที่เงินจะไหลออกมา
- หากทำธุรกรรมไม่สำเร็จ อย่าทำท่ากังวลลนลาน ให้ยกเลิก ดึงบัตร แล้วเดินออกมาเลย อย่ารับความช่วยเหลือใดๆ จากบุคคลแปลกหน้าที่ต่อคิวอยู่ กลุ่มคนร้ายที่ทำงานเป็นกลุ่ม อาจวางแผนสร้างสถานการณ์และเข้ามารุมกันช่วยคุณ
- อย่ารับโทรศัพท์มือถือขณะกำลังกดเอทีเอ็ม ถ้ามันดังปล่อยให้มันดัง อย่าให้อะไรมาแย่งความสนใจจากคุณและการทำธุรกรรม
- อย่ากดเอทีเอ็มล่วงหน้า ถ้าต้องนำเงินสดไปให้ลูกค้าจำนวนมาก ให้กดเอทีเอ็มที่เครื่องที่ปลอดภัยและใกล้จุดหมายที่สุด แล้วนำเงินขึ้นรถไปที่จุดหมายอย่าแวะกลางทาง
ความจริงสิบอย่างเกี่ยวกับโจรเอทีเอ็ม
โจรเอทีเอ็มมักลงมือคนเดียว
โจรเอทีเอ็มส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 30
โจรเอทีเอ็มส่วนใหญ่ติดเหล้าหรือยาเสพติด
โจรเอทีเอ็มส่วนใหญ่พกอาวุธและขู่ว่าจะทำร้าย
โจรเอทีเอ็มส่วนใหญ่จะจี้เอากระเป๋าสะพายและของมีค่าไปด้วย
50% ของเหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อกดเงินเสร็จ
คนร้ายมักซุ่มตัวอยู่ในละแวกใกล้เคียงไม่เกิน 50 เมตร รอจนเหยื่อเข้ามากดเงิน
เหยื่อเกือบทั้งหมดอยู่ตรงนั้นคนเดียว
เหยื่อเกือบทั้งหมดไม่รู้ตัวว่าคนร้ายอยู่แถวนั้นจนเมื่อเกิดเหตุ
เหยื่อเกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง!!!!
รหัสเอทีเอ็มนั้นสำคัญไฉน
คุณอาจเคยคิดว่า ใครได้บัตรเอทีเอ็มคุณไปก็เปล่าประโยชน์ถ้าไม่มีรหัส มีกรณีมากมายที่บัตรเอทีเอ็มหาย และคนร้ายสามารถ “แกะรหัส” คุณได้ ด้วยวิธีที่คุณนึกไม่ถึง
คำเตือนที่ติดข้างตู้ให้คุณเอามือบังรหัสเอทีเอ็มนั้น ไม่ใช่คำเตือนลอยๆ มีผู้คนมากมายที่คิดว่า “ไม่เห็นจำเป็น” ถ้าไม่มีคนต่อคิวอยู่ข้างหลัง
ความจริงคือ อาชญากรสามารถซ่อนกล้องแอบดูการกดรหัสของคุณที่ไหนก็ได้ อาจแอบถ่ายจากด้านบนหรือซูมกล้องจากที่ไกล ดังนั้น คุณต้องยกมือบังรหัสตลอดเวลา
แม้จะไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลยก็ตามที่อันตรายไม่น้อยกว่ากัน คือการที่คุณตั้งรหัสเอทีเอ็มด้วยเลขที่บ้าน เบอร์ห้องพัก หมายเลขโทรศัพท์ หรืออะไรก็ตามที่คนร้ายสามารถแกะรอยจากข้อมูลส่วนตัวของคุณได้
ลองคิดภาพคุณตั้งรหัสเอทีเอ็มด้วยเลขที่วันเกิดกับปีที่เกิด คุณคิดว่าบัตรเอทีเอ็มหายคนร้ายคงไม่รู้รหัสส่วนตัวของคุณ แต่คุณลืมไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าคนร้ายได้กระเป๋าไปทั้งใบ แน่นอนมันอาจเดารหัสนี้ได้
จากข้อมูลในบัตรประชาชนของคุณ
อย่าเด็ดขาด ตั้งรหัสเอทีเอ็มด้วยข้อมูลส่วนตัว เลขที่บ้าน วันเดือนปีเกิด รหัสไปรษณีย์ หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือหรือว่าเบอร์โทรศัพท์ที่บ้าน
หมายเลขทะเบียนรถยนต์ก็ไม่ควรอย่างยิ่ง ผู้หญิงขี้ลืมบางคนตั้งรหัสบัตรเอทีเอ็มทุกใบ และบัตรเครดิตทุกใบด้วยรหัสเดียวกัน อันตรายไม่แพ้กัน เพราะถ้ามัน “แกะรอย” รหัสเดียวได้ มันก็ได้ชีวิตคุณไปทั้งชีวิต
สลิปเอทีเอ็มนั้นสำคัญฉะนี้
ทุกครั้งที่กดเงินเอทีเอ็ม คุณทิ้งสลิปที่หน้าตู้ทันทีหรือไม่
ถ้าใช่ เปลี่ยนนิสัยด่วน!
คุณรู้หรือไม่ว่าบนสลิปบัญชีมีเลขบัญชีสิบหลัก และเลขสิบหลักนี้มีค่าเทียบเท่ากับบัตรเอที เอ็ม ถ้าทำธุรกรรมโอนเงินผ่านระบบธนาคารทางโทรศัพท์
เพียงมีตัวเลขบัญชีและรหัสที่ใช้กับบัญชีนั้น มิจฉาชีพก็สามารถใช้บริการธนาคารทางโทรศัพท์ โทรเข้าไปทำการโอนเงินได้ เอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวกับเงินของคุณ
ทุกอย่างที่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ เลขบัญชีธนาคารของคุณ วันเดือนปีเกิดของคุณ สลิปบัตรเครดิตของคุณ ทำลายให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หาที่กำจัดอย่างปลอดภัย อย่าทิ้งเอาไว้ให้ใคร “สะกดรอย” ตามคุณได้
ช้อปฉลาด
นอกจากตู้เอทีเอ็ม ที่ไหนอีกล่ะที่ผู้คนพกเงินเป็นฟ่อน ใช่แล้ว-ห้างสรรพสินค้าไง
ห้างร้านที่คุณช้อป คือสถานที่ที่ผู้คนนำเงินสดติดตัวมาเพื่อจับจ่าย
ยิ่งนักช้อปมัวแต่พุ่งความสนใจไปยังสินค้าที่วางล่อตาอยู่ ความเผลอไผลก็สร้างโอกาสให้นักฉกฉวยที่คิดการชั่วมาแล้วจากบ้าน อาชญากรรมมากมายเกิดขึ้นในห้าง แต่อย่าให้มันเกิดขึ้นกับคุณ
9 วิธีลดโอกาสตกเป็นเหยื่อโจรห้าง
ไม่ช้อปปิ้งในยามวิกาล พยายามไปช้อปตอนกลางวันที่สว่างและพลุกพล่าน ถ้ามีความจำเป็นต้องไปตอนค่ำ ให้หาที่จอดรถใกล้ประตูมากที่สุดหรือใกล้ รปภ.มากที่สุด พกเงินน้อยที่สุด ถ้าพกมาก อย่าเปิดกระเป๋าที่มีธนบัตรเป็นฟ่อนให้ใครเห็น
ทำตัวเป็นคนใจร้าย อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับใคร แม้แต่นักศึกษาหน้าตาไม่มีพิษภัยที่มาทำแบบสำรวจ
ทำตัวเป็นคนช่างสังเกตจนเป็นนิสัย รู้ตัวเสมอว่าใครอยู่ข้างหน้า ข้างหลัง ข้างซ้าย ข้างขวา
นิสัยนี้ฝึกเป็นนิสัยประจำตัวทุกครั้งที่อยู่ในที่สาธารณะ
อย่าเข็นรถไปมุมอับ มุมเปลี่ยว ถ้าเป็นเวลาวิกาล หลีกเลี่ยงอย่าเข้าห้องน้ำคนเดียว
ถ้ารู้สึกว่ามีใครเดินตาม พยายามชน หรือเดินตรงมายังคุณโดยไม่มีเหตุผล พยายามหาทางเลี้ยวหลบ แล้วเข็นรถไปทางแคชเชียร์
เมื่ออกจากแคชเชียร์ เก็บเงินทอนใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย แล้วนำกระเป๋าเงินใส่กระเป๋าสะพาย รูดซิปปิด
ยอมเสียเวลาเล็กน้อยทำให้เสร็จเรียบร้อย ตั้งสติให้ดีก่อนเข็นรถออกมาจากห้าง
ถ้ามีรถ หยิบกุญแจรถเตรียมไว้ก่อนที่จะเข็นรถเข็นไปที่รถ
ถ้ามีอะไรผิดสังเกตในลานจอดรถ หรือถ้ามันมืดจนไม่สบายใจ อย่าอายที่จะเรียก รปภ.ให้เดินไปส่ง
...................................................
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น